Blog

Tableau คืออะไร ?
บทความ

Tableau คืออะไร ?

Tableau คืออะไร ?

Tableau คืออะไร?

Tableau เป็นซอฟต์แวร์สำหรับการวิเคราะห์ข้อมูลที่จะช่วยให้ผู้ใช้งานเห็นและเข้าใจข้อมูลได้ดียิ่งขึ้น Tableau เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพเป็นอย่างมากและสามารถใช้ได้กับธุรกิจทุกขนาดไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่เพื่อให้ได้รับข้อมูลที่เป็น insight ของลูกค้าจริงๆ

มากไปกว่านั้น Tableau ยังเป็นซอฟแวร์ที่ User friendly หรือง่ายต่อการใช้งานนั่นเอง ถึงแม้ว่าผู้ใช้งานจะไม่มีประสบการณ์เกี่ยวกับซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล(Analytic)  Tableau ยังมีตัวเชื่อมต่อข้อมูลที่หลากหลาย เพื่อให้คุณสามารถเชื่อมต่อกับแหล่งข้อมูลต่าง ๆ ได้ เช่น สเปรดชีต ฐานข้อมูล และคลังข้อมูลบนคลาวด์ เมื่อมีการเชื่อมต่อกับข้อมูลของตัว Tableau จะสามารถแสดงผลเป็น แผนภูมิ กราฟ หรือ Heat map จึงง่ายต่อการที่จะให้คนทั่วไปที่ดูและเข้าใจข้อมูลที่เรานำมาวิเคราะห์

Tableau เป็นเครื่องมือสำหรับการแสดงข้อมูลที่มีกำลังการทำงานที่มีประสิทธิภาพสามารถช่วยให้คุณได้รับข้อมูลที่มีความหมายจากข้อมูลของคุณ มันง่ายต่อการใช้งาน แม้ว่าผู้ใช้งานจะไม่มีประสบการณ์กับซอฟต์แวร์การแสดงข้อมูลมาก่อนก็ตาม Tableau ยังมีคุณสมบัติและตัวเชื่อมต่อหลากหลายทำให้เป็นเครื่องมือที่หลากหลายที่สามารถใช้ได้กับธุรกิจทุกขนาด

ตัวอย่างประโยชน์ของการใช้ Tableau

  • ใช้งานง่าย: Tableau มีระบบหน้าอินเตอร์เฟซแบบ Drag-and-Drop จึงเป็นเรื่องง่ายที่เราจะสร้างการรายงานผลแบบ Visualizations
  • มีตัวเชื่อมต่อข้อมูลหลากหลาย: Tableau สามารถเชื่อมต่อกับแหล่งข้อมูลต่างๆ ได้หลากหลาย เช่น สเปรดชีต ฐานข้อมูล และคลังข้อมูลบนคลาวด์
  • Data visualization: Tableau ช่วยให้คุณสามารถสร้างแผนภูมิ กราฟ และแผนที่ต่าง ๆ เพื่อแสดงข้อมูลของคุณในลักษณะที่ง่ายต่อการเข้าใจ
  • การทำงานร่วมกัน: Tableau ช่วยให้สามารถแบ่งปันการแสดงผลที่ได้วิเคราะห์กับคนอื่นๆ เพื่อให้คุณสามารถร่วมมือกับทีมอื่นๆหรือแชร์ความเข้าใจกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในธุรกิจของคุณได้

ตัวอย่างอุตสาหกรรมที่ใช้ Tableau

  • Retail: Tableau ถูกใช้โดยธุรกิจค้าปลีก เพื่อติดตามข้อมูลการขาย ระดับสต็อกสินค้า และพฤติกรรมของลูกค้า รวมถึง Customer journey
  • Manufacturing: Tableau ถูกใช้โดยธุรกิจผู้ผลิต เพื่อติดตามข้อมูลการผลิต ข้อมูลการควบคุมคุณภาพ และข้อมูลเชิงพาณิชย์ต่างๆรวมถึงปัจจัยภายนอก
  • Healthcare: Tableau ถูกใช้โดยองค์กรด้านสุขภาพ เพื่อติดตามข้อมูลผู้ป่วย ข้อมูลทางการเงิน และข้อมูลด้านการดำเนินงาน
  • Finance: Tableau ถูกใช้โดยสถาบันการเงินเพื่อติดตามข้อมูลตลาด ข้อมูลพอร์ตโฟลิโอ และข้อมูลความเสี่ยงต่างๆ
  • Government: Tableau is used by government agencies to track budget data, census data, and social services data.

หากคุณกำลังมองหาเครื่องมือการแสดงข้อมูลและวิเคราะห์ข้อมูลที่มีประสิทธิภาพและง่ายต่อการใช้งานมากไปกว่านั้นยังสามารถใช้ได้กับธุรกิจทุกขนาด Tableau คือคำตอบสำหรับคุณ

สำหรับท่านที่ต้องการอ่านเพิ่มเติมและศึกษาเกี่ยวกับ CRM และ Salesforce สามารถอ่านได้จากลิงค์ที่เราแปะไว้ให้ Salesforce คืออะไร ? และ CRM คืออะไร ?

https://www.tableau.com/

 

Get on the path to faster sales! 
Watch a guided tour or try free trial now!

มาร่วมทดลอง Salesforce CRM #1 กันเถอะ

ทดลองฟรี
CRM
บทความ

CRM ช่วยปรับปรุงและพัฒนาแคมเปญด้านการตลาด

ซอฟต์แวร์การจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้าหรือที่เราเรียกกันว่า CRM เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการช่วยปรับปรุงและพัฒนาแคมเปญการตลาด โดยการทำให้ข้อมูลลูกค้ามีจุดศูนย์กลางในการเก็บข้อมูล เช่น พฤติกรรมการใช้งานของลูกค้าเป็นต้น ซอฟต์แวร์ CRM สามารถช่วยให้นักการตลาดสร้างข้อความการตลาดที่ตรงเป้าหมายและมีประสิทธิภาพมากขึ้นได้

ตัวอย่างการใช้ใช้ซอฟต์แวร์ CRM เพื่อปรับปรุงแคมเปญการตลาด

แยกกลุ่มลูกค้าด้วยซอฟต์แวร์ CRM

CRM สามารถช่วยคุณแยกกลุ่มลูกค้าของคุณตามปัจจัยต่างๆได้ เช่น ลักษณะทางสถิติ ความสนใจ และประวัติการซื้อของลูกค้า ข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้คุณสร้างข้อความการตลาดที่ตรงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น มากไปกว่านั้นซอฟต์แวร์

ติดตามผลลัพธ์ของแคมเปญทางการตลาด

CRM ยังสามารถติดตามผลลัพธ์ของแคมเปญทางการตลาดได้ เช่น จำนวนผู้ที่เปิดอีเมลจากที่ส่งไป จำนวนของการคลิกลิงก์ที่แนบไป และการซื้อสินค้า ข้อมูลเหล่านี้สามารถช่วยให้คุณรู้ว่าอะไรทำงานได้ดีและอะไรที่ไม่ได้ประสิทธิภาพ

วัดผลตอบแทนของการลงทุน (ROI)

CRM ยังสามารถช่วยคุณวัดผลตอบแทนของการลงทุน (ROI) ในแคมเปญการตลาดได้อีกด้วยข้อมูลเหล่านี้จะสามารถช่วยให้แสดงให้เห็นว่า งบประมาณการตลาดเป็นไปตามที่เราต้องการหรือไม่และทำให้มั่นใจได้ว่าได้รับประโยชน์มากที่สุดจากการลงทุนในแคมเปญด้านการตลาด

นอกเหนือจากประโยชน์ข้างบนซอฟต์แวร์ CRM ยังช่วยให้ทำงานได้สะดวกสบายมากขึ้น

  • Automation ซอฟต์แวร์ CRM สามาถช่วยงานให้สะดวกสบายมากขึ้นด้วย Automation เช่น การส่งอีเมลแคมเปญ การติดตามลูกค้าที่นำไปสู่การซื้อ ซึ่งจะช่วยให้นักการตลาดมีเวลามากขึ้นและนำเวลาไปสร้างกลยุทธ์หรือปรับปรุงบริการลูกค้า
  • ซอฟต์แวร์ CRM ช่วยให้คุณให้บริการลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น โดยให้มุมมองเดียวกันของลูกค้าทุกช่องทาง นี่หมายถึงคุณสามารถดูทุกปฏิสัมพันธ์ของลูกค้ากับธุรกิจของคุณได้ตั้งแต่การซื้อครั้งแรกจนถึงใบสนับสนุนล่าสุด สร้างความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งกับลูกค้า
  • ซอฟต์แวร์ CRM ช่วยให้คุณสร้างความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งกับลูกค้า โดยให้คุณมีเครื่องมือที่จำเป็นในการติดต่อกับลูกค้าและเข้าใจความต้องการของพวกเขา สิ่งนี้สามารถนำไปสู่ความภักดีของลูกค้าและการซื้อสินค้าซ้ำ

ทิ้งท้าย

ถ้าผู้อ่านมี CRM อยู่แล้วตรวจสอบให้แน่ใจว่า CRM ได้รับการ integration ให้เข้ากับเครื่องมือการตลาดอื่น ๆ ซึ่งมันจะช่วยให้แบ่งปันข้อมูลได้ทั่วทั้งแพลตฟอร์มและเพื่อให้มีภาพรวม Profile ของลูกค้าแบบละเอียดและอย่าลืมที่จะตั้งค่ารายงานและวิเคราะห์เป็นประจำนี้ เนื่องจากจะช่วยให้คุณติดตามผลการดำเนินงานของแคมเปญการตลาดและนำมาปรับปรุงตามแผน

แต่ถ้าผู้อ่านท่านใดยังไม่รู้จักว่า CRM คืออะไรแล้วละก็ตามไปอ่านได้ที่นี่เลย : CRM คืออะไร

Get on the path to faster sales! 
Watch a guided tour or try free trial now!

มาร่วมทดลอง Salesforce CRM #1 กันเถอะ

ทดลองฟรี
Customer journey
บทความ

Customer Journey ที่ดีจะนำไปสู่ ROI ที่เพิ่มขึ้น

แน่นอนว่าการเพิ่มกำไร (ROI) เป็นเป้าหมายที่สำคัญสำหรับทุกๆธุรกิจ การสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้ายังเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งในการเพิ่ม ROI ของธุรกิจและเพื่อที่จะทำได้นั้น การเข้าใจและการสร้าง Customer Journey ที่ดีจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก 

Customer Journey คืออะไร ?

Customer Journey หมายถึงการเดินทางของลูกค้าในระหว่างการซื้อสินค้าหรือพูดคุยสอบถามเกี่ยวกับตัวสินค้าหรือบริการ ซึ่งถือว่าเป็นระยะทางที่ลูกค้าผ่านมาตั้งแต่ระหว่างการค้นหาสินค้าหรือบริการจนถึงการซื้อสินค้า การใช้งานหรือการบริการ และการสร้างความคุ้นเคยกับแบรนด์ ความสำคัญของ Customer Journey ที่ดีก็คือการสร้างประสบการณ์ที่ดีและน่าสนใจให้กับลูกค้าทำให้ลูกค้ารู้สึกพึงพอใจและต้องการกลับมาใช้บริการอีกครั้งในอนาคต

Customer Journey ประกอบไปด้วยหลายช่วงเวลา

Customer Journey ประกอบด้วยช่วงเวลาและขั้นตอนต่างๆที่ลูกค้าผ่านเพื่อทำธุรกิจ ตั้งแต่การค้นหาข้อมูล การตัดสินใจในการซื้อ การทดลองใช้งาน การซื้อสินค้าหรือบริการ และการติดตามหลังการซื้อ เพื่อให้สามารถสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าในแต่ละช่วง ควรมีการระบุช่วงเวลาและขั้นตอนของ Customer Journey เพื่อให้สามารถวางแผนและสร้างประสบการณ์ที่เหมาะสมแก่ลูกค้าได้อย่างเต็มที่

การสร้าง Customer Journey ที่มีประสิทธิภาพ

การสร้าง Customer Journey ที่มีประสิทธิภาพเริ่มต้นด้วยการศึกษาและการวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า คุณควรเข้าใจลักษณะและพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมาย ศึกษาข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับความต้องการและความคาดหวังของลูกค้า เพื่อให้สามารถปรับปรุงแก้ไข Customer Journey ให้ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ควรกำหนดเป้าหมายและยุทธศาสตร์ในการสร้าง Customer Journey เพื่อให้สอดคล้องกับกลยุทธ์ในธุรกิจ มากไปกว่านั้นการใช้เทคโนโลยีและเครื่องมือที่เหมาะสมจะช่วยให้มีการติดตามและการประเมินผลของ Customer Journey ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การวัดผลลัพธ์และปรับปรุง Customer Journey

เพื่อให้ Customer Journey มีประสิทธิภาพสูงสุด เราควรทำการติดตามและวัดผลของ Customer Journey โดยใช้ตัวชี้วัดที่เกี่ยวข้อง เช่น อัตราการแปลงลูกค้า (conversion rate) ระยะเวลาที่ใช้ในแต่ละช่วงของ Customer Journey หรือระดับความพึงพอใจของลูกค้า หากพบปัญหาหรือข้อบกพร่อง เราควรปรับปรุงและปรับแก้ Customer Journey เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและเติมเต็มประสบการณ์ของลูกค้า อย่าลืมทำการทดสอบและปรับปรุงอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้าง Customer Journey ที่ดีกับคุณธุรกิจ

สรุป

การสร้างและพัฒนา Customer Journey ที่ดีเป็นองค์ประกอบที่สำคัญสำหรับการเพิ่ม ROI ของธุรกิจ โดยจะต้องเข้าใจและวิเคราะห์ลูกค้าอย่างละเอียด และการสร้างประสบการณ์ที่น่าสนใจในแต่ละช่วงของ Customer Journey จะช่วยเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้าและสร้างความเชื่อมั่นทำให้เกิดการเพิ่มขึ้นของ ROI ในธุรกิจ

Get on the path to faster sales! 
Watch a guided tour or try free trial now!

มาร่วมทดลอง Salesforce CRM #1 กันเถอะ

ทดลองฟรี
salesforce authorized partners
บทความ

ตัวแทนจำหน่าย Salesforce ในประเทศไทย (Salesforce authorized cloud reseller)

วันนี้ทาง M Intelligence จะพาทุกคนไปรู้จักกับ Salesforce authorized cloud reseller ว่าคืออะไร ? 

Salesforce authorized cloud reseller ก็คือบริษัทที่ได้รับอนุญาตจาก Salesforce ให้จำหน่ายผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์บนระบบคลาวด์ หรือเรียกง่ายๆว่าตัวแทนจำหน่าย Salesforce ในประเทศไทยนั่นเอง ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์บนระบบคลาวด์ เช่น Sales Cloud, Service Cloud และ Marketing Cloud บริษัทที่ได้รับSalesforce authorized cloud reseller จะมีการฝึกอบรมและรับรองโดย Salesforce เพื่อให้คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ การ implementation services และการสนับสนุนสำหรับผลิตภัณฑ์ Salesforce ให้แก่ลูกค้า มากไปกว่านั้นเรายังสามารถเสนอบริการเพิ่มเติมอื่นๆได้ เช่น การ customization, integration, หรือการทำ data migration.

โดยการเป็น Salesforce authorized cloud reseller แสดงว่าบริษัทหรือบุคคลดังกล่าวได้รับการรับรองจาก Salesforce เพื่อให้บริการลูกค้าด้วยระบบคลาวด์ต่างๆ ที่ Salesforce มีให้ รวมถึงซอฟต์แวร์บนคลาวด์ เครื่องมือการจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้า (Customer Relationship Management – CRM) และบริการคลาวด์อื่นๆ ที่สนับสนุนธุรกิจและกระบวนการต่างๆในองค์กร บริษัทหรือบุคคลที่เป็น Salesforce authorized cloud reseller สามารถทำธุรกิจขายและให้คำปรึกษาเกี่ยวกับสินค้าและบริการของ Salesforce ได้อย่างเป็นทางการและถูกต้องตามมาตรฐานของ Salesforce

และหากท่านใดกำลังมองหาระบบ CRM และการดูแลลูกค้าแบบมืออาชีพพร้อมให้คำปรึกษาอยู่แล้วละก็ทาง M Intelligence พร้อมให้คำปรึกษากับทุกคน

 

No Description

No Description

ขอขอบคุณรูปจาก https://www.blognone.com/node/133231

 

Get on the path to faster sales! 
Watch a guided tour or try free trial now!

มาร่วมทดลอง Salesforce CRM #1 กันเถอะ

ทดลองฟรี
Salesforce Risk
บทความ

8 ความเสี่ยงของการไม่มี CRM ในการดำเนินธุรกิจ

การดำเนินธุรกิจในยุคที่เต็มไปด้วยการแข่งขัน เป็นสิ่งที่ทุกธุรกิจต้องเผชิญอยู่ตลอดเวลาและการมี CRM (Customer Relationship Management) เป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรขาดในการจัดการธุรกิจในปัจจุบัน แต่หากคุณไม่มีระบบ CRM ที่มีประสิทธิภาพ คุณอาจพบความเสี่ยงต่อธุรกิจของคุณที่อาจทำให้คู่แข่งเริ่มเป็นผู้นำตลอดเวลาและในบทความนี้จะแสดงให้เห็นถึง 8 ความเสี่ยงที่คุณอาจพบเมื่อไม่มี CRM

1.ขาดความสอดคล้องในการติดต่อลูกค้า

หากคุณไม่มี CRM เพื่อจัดเก็บข้อมูลลูกค้าและประวัติการติดต่อ คุณอาจพลาดโอกาสในการสร้างความสัมพันธ์และติดต่อลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพ และคู่แข่งอาจได้รับข้อมูลลูกค้าที่มีคุณค่าและนำมาใช้ให้เป็นประโยชน์ในการแข่งขัน

2.ขาดการวิเคราะห์และการตัดสินใจที่มีข้อมูล

การใช้ CRM ช่วยให้คุณสามารถวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าและตัดสินใจที่มีความรู้สึกมั่นใจมากขึ้น เมื่อคุณไม่มีระบบที่เก็บข้อมูลลูกค้าได้อย่างเป็นระเบียบ คุณอาจพลาดการวิเคราะห์ที่มีความสำคัญเพื่อให้คุณตัดสินใจที่ถูกต้องและมีประสิทธิภาพ

3.ขาดการทำงานที่เป็นระบบและความเสถียร

การมี CRM ช่วยให้ธุรกิจของคุณทำงานได้อย่างเป็นระบบ การทำงานที่มีความเสถียรจะช่วยให้คุณสามารถติดตามข้อมูลลูกค้าและกิจกรรมทางธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง หากคุณไม่มีระบบที่เป็นระบบ อาจเกิดความสับสนและความไม่เสถียรภาพซึ่งอาจส่งผลให้คุณไม่สามารถตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าได้อย่างทันท่วงที

4.ขาดการเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจ

CRM ช่วยให้ธุรกิจของคุณเพิ่มประสิทธิภาพในด้านต่างๆ เช่น การติดตามลูกค้าที่มีโอกาสเกิดซื้อซ้ำ การจัดการกิจกรรมขายที่มีประสิทธิภาพ และการปรับปรุงกระบวนการทำงานภายในองค์กร หากคุณไม่มี CRM เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ คุณอาจพลาดโอกาสในการพัฒนาธุรกิจของคุณอย่างต่อเนื่อง

5.ขาดความเชื่อมั่นจากลูกค้า

การมีระบบ CRM ช่วยให้คุณสามารถสร้างความเชื่อมั่นในลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ คุณสามารถติดตามและตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าในระยะยาวได้อย่างเหมาะสม หากคุณไม่มีระบบที่สามารถช่วยในเรื่องนี้ คู่แข่งอาจได้รับความเชื่อมั่นจากลูกค้าในระดับที่สูงขึ้น ซึ่งอาจทำให้ลูกค้าของคุณเปลี่ยนไปใช้สินค้าหรือบริการของคู่แข่งแทน

6.ขาดการบริหารจัดการลูกค้า

การใช้ CRM เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการบริหารจัดการลูกค้า คุณสามารถทำการวางแผนการติดต่อลูกค้า การสร้างและดูแลลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพได้ หากคุณไม่มี CRM ที่เหมาะสม คุณอาจพลาดการบริหารจัดการลูกค้าในระดับที่มีประสิทธิภาพ และอาจส่งผลให้ลูกค้าสูญเสียความพึงพอใจและเลือกใช้บริการของคู่แข่ง

7.ขาดการตอบสนองที่รวดเร็ว

CRM ช่วยให้คุณสามารถตอบสนองต่อลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว ด้วยข้อมูลลูกค้าที่มีอยู่ในระบบ คุณสามารถให้คำปรึกษา แก้ไขปัญหา หรือช่วยเหลือลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากคุณไม่มี CRM เพื่อช่วยในกระบวนการตอบสนอง คุณอาจพลาดโอกาสในการตอบสนองลูกค้าที่รวดเร็วและสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างถูกต้อง

8.ขาดการเสริมสร้างความผูกพันและความลงตัวของลูกค้า

CRM เป็นเครื่องมือที่ช่วยในการเสริมสร้างความผูกพันและความลงตัวของลูกค้า คุณสามารถให้บริการที่ตรงกับความต้องการและความคาดหวังของลูกค้าได้อย่างแม่นยำ หากคุณไม่มี CRM ที่สามารถช่วยในเรื่องนี้ คู่แข่งอาจมีการสร้างความผูกพันและความลงตัวกับลูกค้าได้ดียิ่งกว่าคุณ

สรุป

การไม่มี CRM หรือมี CRM ที่ไม่มีประสิทธิภาพอาจเป็นความเสี่ยงต่อธุรกิจของคุณซึ่งอาจทำให้คู่แข่งเริ่มเป็นผู้นำและไม่สามารถที่จะแข่งขันกับคู่แข่งได้อย่างทันท่วงที ดังนั้น หากคุณต้องการเป็นผู้นำในวงการธุรกิจ การใช้ CRM เพื่อจัดการธุรกิจและสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง

 

Get on the path to faster sales! 
Watch a guided tour or try free trial now!

มาร่วมทดลอง Salesforce CRM #1 กันเถอะ

ทดลองฟรี
CRM
บทความ

5 ประโยชน์สูงสุดของแพลตฟอร์ม CRM

ในบทความของวันนี้เราจะพาทุกคนมาดู 5 ประโยชน์สูงสุดของแพลตฟอร์ม CRM ที่ทำไมบริษัทชั้นนำระดับโลกจึงเลือกใช้ซอฟแวร์ตัวนี้เข้ามาช่วยในการดำเนินงานภายในบริษัท

5 ประโยชน์ของแพลตฟอร์ม CRM

1.รายงานที่น่าเชื่อถือ

ข้อมูลเป็นส่วนสำคัญของธุรกิจและมีจากแหล่งที่มาหลายแห่ง เช่น โซเชียลมีเดีย google analytics 4 ซอฟต์แวร์ธุรกิจและแอปพลิเคชันต่างๆแต่ข้อมูลเหล่านี้จะไม่เป็นประโยชน์ถ้าไม่ได้ถูกจัดเรียงให้ดีและผ่านการวิเคราะห์

บริษัททุกขนาดใช้โซเชียลมีเดียและพฤติกรรมทางสถิติจากแพลตฟอร์มเหล่านั้นเป็นส่วนสำคัญในการติดตามการเข้าชมเว็บไซต์ของลูกค้าอย่างไรก็ตามเราไม่สามารถพึ่งพาเครื่องมือเหล่านี้ได้ตลอดเนื่องจากบางครั้งอาจจะไม่เห็น Insight ของลูกค้าจริงๆ ระบบ CRM จะช่วยให้สามารถลงลึกในข้อมูลส่วนตัวของลูกค้าและตัวชี้วัดต่างๆทั้งหมดรวมถึงข้อมูลจากแหล่งที่มาอื่น ๆและนี่ก็เป็นหนึ่งในประโยชน์ที่ดีที่สุดของระบบ CR

2.แดชบอร์ดที่แสดงข้อมูลในรูปแบบกราฟฟิก

การใช้สเปรดชีตในการจัดการบริษัทของคุณหมายความว่าคุณต้องป้อนหรือนำเข้าข้อมูลด้วยตนเองค้นหาว่าอะไรเป็นสิ่งสำคัญและจัดเรียงข้อมูลนี้ในรูปแบบกราฟฟิก แต่ CRM นั้นสามารถทำในสิ่งที่ได้บอกมาข้างต้นแบบอัตโนมัติและแสดงผลออกมาแบบกราฟฟิค และเรายังสามารถใช้จากแดชบอร์ดได้มากกว่าที่คิด เช่น คุณสามารถตั้งค่าแดชบอร์ดสำหรับทุกคนในบริษัทของคุณที่มีข้อมูลเข้าสู่ระบบ CRM ตัวอย่างเช่น ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดอาจสนใจในข้อมูลการตลาดทางอีเมลโดยเฉพาะอย่างยิ่งอัตราการคลิกผ่านของแต่ละแคมเปญ โดยสามารถตั้งค่าแดชบอร์ดที่แสดงผลทันทีว่าอีเมลหนึ่งๆถูกส่งไปยังกี่คน มีกี่คนเปิดอีเมล อัตราการคลิกผ่านเป็นเท่าไร และอื่น ๆ และผู้อำนวยการฝ่ายขายอาจต้องการทราบว่ามีการโทรออกไปกี่ครั้งต่อชั่วโมง และมีกี่ครั้งที่การโทรเกิดผลบวก เช่นการนัดหมายหรือการสาธิตในอนาคต แดชบอร์ดเลยช่วยให้ผู้ใช้สามารถเห็นข้อมูลที่สำคัญที่สุดต่อการทำงานของพวกเขาได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องค้นหา คัดกรอง จัดเรียงหรือรันรายงาน

3.การสื่อสารส่วนตัวมากขึ้นด้วยอัตโนมัติ

เนื่องจากการที่เราได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับกลุ่มเป้าหมายจากอุตสาหกรรมต่างๆเราสามารถสร้างข้อความและการสื่อสารที่สอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกันได้ เพื่อใช้ในการสื่อสารที่เป็นประโยชน์มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการทำงานด้วยตนเองหรือใช้ Automation เช่น เว็บไซต์บริษัททัวร์หากมีบุคคลใดสร้างแผนการเดินทางที่กำหนดเองสำหรับการเดินทางไปเมืองไทย แทนที่จะส่งอีเมลทั่วไปเกี่ยวกับการท่องเที่ยวคุณสามารถเริ่มการแคมเปญที่เกี่ยวข้องกับผู้ที่สร้างแผนการท่องเที่ยวที่กำหนดเองสำหรับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

4.การเพิ่มประสิทธิภาพโดย Automation

การใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์ม CRM โดยใช้ Automation เข้ามาช่วยในการทำงานเช่นการจัดเก็บข้อมูลเชิงประสิทธิภาพและข้อมูลเรียลไทม์และสนับสนุนการทำงานร่วมกันอย่างรวดเร็วให้กับทุกๆทีมในบริษัท

ตัวอย่างการเพิ่มประสิทธิภาพ

  • การใช้ Automation เพื่อให้เกิดกระบวนการธุรกิจที่เร็วขึ้นซึ่งรวมถึงการลดเวลาในการส่งอีเมลและการดูแลลูกค้าผ่านการตั้งค่าอัตโนมัติ
  • การติดตามและการแจ้งเตือนที่ทันทีทำให้คุณไม่พลาดการติดต่อสำคัญจากลูกค้าหรือคู่ค้า
  • การจัดการโอกาสขายอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการติดตามอัตโนมัติและการแบ่งปันข้อมูลในทีมเพื่อประสิทธิภาพในการเข้าถึงลูกค้า
  • การรวบรวมข้อมูลและการวิเคราะห์ข้อมูลอย่างรวดเร็ว เพื่อให้คุณสามารถตัดสินใจที่มีความสำคัญในเวลาเป็นเวลาอย่างรวดเร็ว

5.การติดตามและการวิเคราะห์ข้อมูลอย่างรวดเร็ว

ซอฟต์แวร์ CRM ช่วยให้คุณสามารถรวบรวมข้อมูลจากแหล่งต่างๆ และวิเคราะห์ข้อมูลอย่างรวดเร็วเพื่อให้คุณสามารถตรวจสอบสถานะและเข้าใจข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับลูกค้าของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ คุณสามารถดำเนินการตรวจสอบและวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับลูกค้าของคุณได้อย่างง่ายดาย ตัวอย่างเช่น คุณสามารถรับข้อมูลเกี่ยวกับแนวโน้มการซื้อของลูกค้าในครั้งถัดไป การสั่งซื้อที่เกิดขึ้นในระยะเวลาที่กำหนด และการติดต่อกับทีมขาย ซึ่งเป็นข้อมูลที่สำคัญในการปรับแผนการตลาดและการขายให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ คุณยังสามารถสร้างรายงานที่กำหนดเองเพื่อดูข้อมูลที่สำคัญต่าง ๆ อย่างรวดเร็ว รายงานเหล่านี้สามารถแสดงข้อมูลเชิงกราฟิกให้คุณเห็นภาพรวมและแนวโน้มที่สำคัญ เพื่อช่วยในการตัดสินใจและการวางแผนทางธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

 

Automation Features in Your CRM Platform Help You Work More Efficiently

https://www.salesforce.com/ap/resources/articles/benefits-of-crm/

 

แต่สำหรับท่านที่อ่านบทความจนจบแล้วยังสงสัยว่า CRM คืออะไร ? สามารถคลิ๊กได้ที่นี่เลย

 

Get on the path to faster sales! 
Watch a guided tour or try free trial now!

มาร่วมทดลอง Salesforce CRM #1 กันเถอะ

ทดลองฟรี
ตัวอย่างการใช้ omni channel
บทความ

ตัวอย่างของการใช้ Omni Channel และประสบความสำเร็จ

Omni Channel

เป็นเครื่องมือที่สำคัญสำหรับธุรกิจในยุคที่ผู้บริโภคมีความคาดหวังสูงเกี่ยวกับประสบการณ์ลูกค้าที่รวดเร็วและสะดวกสบายทุกช่องทางการสื่อสารในบทความนี้เราจะพาไปดู 5 ตัวอย่างของการใช้ Omni Channel ที่ประสบความสำเร็จในการสร้างประสบการณ์ลูกค้าที่ยอดเยี่ยมโดยเน้นไปที่ความหลากหลายของช่องทางการสื่อสารและการปรับตัวต่อความต้องการของลูกค้า

ตัวอย่างที่ 1: บริการลูกค้าผ่านแชทออนไลน์
การใช้ Omni Channel เพื่อให้ลูกค้าสามารถติดต่อสอบถามหรือรับความช่วยเหลือผ่านแชทออนไลน์ ทำให้ลูกค้าสามารถติดต่อได้ง่ายและรวดเร็ว และทีมบริการลูกค้าสามารถจัดการกับคำถามหลายๆ รายการพร้อมกันได้ ผลลัพธ์คือการตอบสนองที่รวดเร็วและพึงพอใจของลูกค้าที่สูงขึ้น

ตัวอย่างที่ 2: การใช้ Social Media เป็นช่องทางการสื่อสาร
Omni Channel ที่รวมการใช้ Social Media เป็นหนึ่งในช่องทางการสื่อสารช่วยให้ธุรกิจสามารถตอบสนองและติดตามกิจกรรมของลูกค้าในโซเชียลมีเดียได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งช่วยสร้างความสัมพันธ์และความสัมพันธ์กับลูกค้าอย่างใกล้ชิดขึ้น

ตัวอย่างที่ 3: การใช้ Email ในการสื่อสารแบบต่อเนื่อง
การใช้ Omni Channel เพื่อสร้างประสบการณ์ลูกค้าที่ต่อเนื่องผ่านทางอีเมล เช่น การส่งอีเมลแสดงความยินดีหรือการติดตามสินค้าหลังการสั่งซื้อ ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือและความพึงพอใจในลูกค้า

ตัวอย่างที่ 4: การใช้เว็บไซต์และแอปพลิเคชันสำหรับลูกค้า
การใช้ Omni Channel เพื่อให้ลูกค้าสามารถใช้เว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันเพื่อทำธุรกิจกับธุรกิจของคุณได้ ช่วยให้ลูกค้าสะดวกและสามารถทำธุรกิจกับคุณได้อย่างสะดวกสบาย และเพิ่มความคุ้นเคยในการใช้งานแพลตฟอร์มของคุณ

ตัวอย่างที่ 5: การใช้ตู้ข้อมูลอัตโนมัติ (Self-Service Kiosk)
Omni Channel ที่ใช้ตู้ข้อมูลอัตโนมัติช่วยลดภาระของทีมบริการลูกค้าโดยให้ลูกค้าทำธุรกิจด้วยตนเอง อาทิเช่น การทำธุรกิจธนาคารหรือการเช็คอินในสนามบิน โดยลูกค้าสามารถเข้าถึงข้อมูลและทำธุรกิจได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สรุป

การใช้ Omni Channel เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการเพิ่มความภักดีของลูกค้า โดยช่วยให้ธุรกิจสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพผ่านช่องทางที่หลากหลาย ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างประสบการณ์ลูกค้าที่ยอดเยี่ยม ดังนั้น ความสำเร็จในการใช้ Omni Channel อยู่ที่การปรับใช้และการตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพ

Get on the path to faster sales! 
Watch a guided tour or try free trial now!

มาร่วมทดลอง Salesforce CRM #1 กันเถอะ

ทดลองฟรี
มี CRM อยู่แล้ว จำเป็นต้องมี CDP หรือไม่?
บทความ

มี CRM อยู่แล้วจำเป็นต้องมี CDP หรือไม่?

บริษัทที่มีระบบการจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้า (CRM) อยู่แล้ว อาจสงสัยว่าจำเป็นต้องมีแพลตฟอร์มการจัดเก็บข้อมูลลูกค้า (Customer Data Platform – CDP) เพิ่มเติมหรือไม่ ในการตอบคำถามนี้ จำเป็นต้องพิจารณาเป้าหมายและความต้องการของธุรกิจเฉพาะของบริษัท ดังนั้น เพื่อให้คุณสามารถตัดสินใจได้อย่างถูกต้อง

เหตุผลที่บริษัทอาจจำเป็นต้องมี CDP

  • บริษัทต้องการรวมข้อมูลลูกค้าที่หลากหลายแห่ง: ระบบ CRM มักจะเก็บข้อมูลลูกค้าเกี่ยวกับการติดต่อและกิจกรรมของลูกค้าภายในองค์กร อย่างไรก็ตาม CDP ช่วยให้ธุรกิจสามารถรวมข้อมูลลูกค้าจากแหล่งข้อมูลที่หลากหลาย เช่น ระบบการขายออนไลน์ เว็บไซต์ แอปพลิเคชัน และช่องทางอื่นๆ ซึ่งจะช่วยให้ธุรกิจมีภาพรวมของลูกค้าที่ครอบคลุมและละเอียดมากขึ้น

 

  • บริษัทต้องการความเข้าใจลึกซึ้งเกี่ยวกับลูกค้า: CRM ช่วยให้ธุรกิจเข้าใจและติดตามกิจกรรมของลูกค้าได้ แต่ CDP มุ่งเน้นการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อให้ธุรกิจมีความเข้าใจลึกซึ้งเกี่ยวกับพฤติกรรม ความต้องการ และความพึงพอใจของลูกค้า ด้วยการรวมข้อมูลจากแหล่งที่ต่างกัน ธุรกิจสามารถสร้างประสบการณ์ที่กำหนดเองให้แก่ลูกค้าได้

 

  • บริษัทต้องการการทำงานร่วมกันของฟังก์ชั่นต่างๆ: โดยทั่วไป CDP จะเป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยให้ฟังก์ชันต่างๆ ภายในองค์กรเชื่อมต่อกันและทำงานร่วมกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งระบบ CRM และระบบการตลาด (Marketing Automation) ซึ่งจะช่วยให้ธุรกิจสามารถใช้ข้อมูลลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพในการสร้างแคมเปญการตลาดที่เต็มไปด้วยความส่วนตัวและปรับกลยุทธ์ตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

  • บริษัทต้องการการติดต่อลูกค้าที่เป็นมิตรและเน้นบุคคล: การมี CDP ช่วยให้ธุรกิจสามารถสร้างประสบการณ์การติดต่อที่เป็นมิตรและเน้นบุคคลกับลูกค้าได้ ด้วยข้อมูลที่รวบรวมและวิเคราะห์อย่างละเอียด เช่น ประวัติการซื้อ ความสนใจ และความต้องการของลูกค้า ธุรกิจสามารถกำหนดและปรับปรุงการสื่อสารเพื่อตอบสนองต่อความต้องการและความพึงพอใจของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

  • บริษัทต้องการการบริหารจัดการข้อมูลลูกค้าที่มีประสิทธิภาพ: CDP ช่วยให้ธุรกิจสามารถบริหารจัดการข้อมูลลูกค้าได้ในรูปแบบที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยการรวบรวม จัดเก็บ และประมวลผลข้อมูลลูกค้าที่ถูกต้องและเชื่อถือได้ ทำให้ธุรกิจสามารถทำความเข้าใจลูกค้าในระดับที่ลึกซึ้งขึ้น และตอบสนองต่อความต้องการและความพึงพอใจของลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพ

สรุป

การมี CDP เพิ่มเติมหลังจากมีระบบ CRM ขึ้นอยู่กับความต้องการของธุรกิจและเป้าหมายในการจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้า เพื่อให้ธุรกิจสามารถรวมข้อมูลลูกค้าจากแหล่งที่หลากหลาย วิเคราะห์และนำเสนอข้อมูลลูกค้าในรูปแบบที่มีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีและปรับกลยุทธ์ธุรกิจให้เข้ากับความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

Get on the path to faster sales! 
Watch a guided tour or try free trial now!

มาร่วมทดลอง Salesforce CRM #1 กันเถอะ

ทดลองฟรี
5 ข้อดีของการมี CDP (Customer Data Platform)
บทความ

5 ข้อดีของการมี CDP (Customer Data Platform)

CDP (Customer Data Platform) เป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยธุรกิจในการจัดเก็บข้อมูลลูกค้าและใช้ข้อมูลนั้นเพื่อเข้าใจลูกค้าอย่างละเอียด โดยเชื่อมต่อข้อมูลจากแหล่งที่มาต่าง ๆ เพื่อสร้างภาพรวมที่ครอบคลุมเกี่ยวกับลูกค้าของธุรกิจ และในบทความนี้จะแสดงให้เห็นถึง 5 ข้อดีของการมี CDP

5 ข้อดีของการมี CDP

1.การเข้าใจลูกค้าอย่างละเอียด: CDP ช่วยให้ธุรกิจสามารถรวบรวมข้อมูลลูกค้าจากแหล่งที่มาต่าง ๆ เช่นเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน การซื้อสินค้า และสื่อสังคมออนไลน์ เมื่อข้อมูลเหล่านี้รวมกันในแพลตฟอร์มเดียว ธุรกิจจะมีภาพรวมที่ครอบคลุมและเข้าใจลูกค้าอย่างละเอียดมากขึ้น เพื่อให้สามารถปรับกลยุทธ์การตลาดและการบริการให้เข้ากับความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

2.การปรับแต่งประสบการณ์ลูกค้า: ด้วยข้อมูลที่รวบรวมจาก CDP ธุรกิจสามารถปรับแต่งประสบการณ์ลูกค้าให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล ตั้งแต่การส่งข้อความที่กำหนดเอง การแสดงโฆษณาที่ตรงกับความสนใจ ไปจนถึงการจัดส่งข้อความที่ทันสมัยและมีคุณค่าต่อลูกค้า ซึ่งสามารถช่วยเพิ่มความพึงพอใจและความภักดีของลูกค้าได้

3.การปรับกลยุทธ์การตลาด: CDP ช่วยให้ธุรกิจสามารถวิเคราะห์และทำคาดการณ์เกี่ยวกับพฤติกรรมลูกค้าได้ ทำให้เกิดความเข้าใจที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับกลุ่มเป้าหมายและตลาด เมื่อมีข้อมูลนี้ธุรกิจสามารถปรับกลยุทธ์การตลาดให้เหมาะสมและเต็มประสิทธิภาพขึ้น ตั้งแต่การเลือกและการจัดส่งข้อความการตลาด ไปจนถึงการวางแผนกลยุทธ์การตลาดในอนาคต

4.การพัฒนาสินค้าและบริการ: ด้วยข้อมูลลูกค้าที่รวบรวมจาก CDP ธุรกิจสามารถทำความเข้าใจความต้องการและความพึงพอใจของลูกค้าได้ละเอียด จากนั้นสามารถนำข้อมูลเหล่านี้มาพัฒนาสินค้าและบริการให้ตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ธุรกิจสามารถเสนอสินค้าและบริการที่ทันสมัยและเป็นเอกลักษณ์ได้

5.การบริหารจัดการข้อมูลลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพ: โดยใช้ CDP เป็นศูนย์กลางในการจัดเก็บข้อมูลลูกค้า ธุรกิจสามารถทำการบริหารจัดการข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงความปลอดภัยของข้อมูล และการปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านความเป็นส่วนตัว ซึ่งช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นและความไว้วางใจให้กับลูกค้า

สรุป

CDP เป็นเครื่องมือที่สำคัญในการเพิ่มความภักดีของลูกค้า โดยช่วยให้ธุรกิจเข้าใจลูกค้าอย่างละเอียด ปรับแต่งประสบการณ์ลูกค้า ปรับกลยุทธ์การตลาด พัฒนาสินค้าและบริการ และบริหารจัดการข้อมูลลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มความภักดีและความพึงพอใจของลูกค้าในระยะยาว ทำให้ธุรกิจมีความสำเร็จในการดูแลลูกค้าและเติบโตอย่างมั่นคงมากขึ้นได้

Get on the path to faster sales! 
Watch a guided tour or try free trial now!

มาร่วมทดลอง Salesforce CRM #1 กันเถอะ

ทดลองฟรี
Salesforce Loyalty
บทความ

Salesforce ช่วยเพิ่มความภักดีต่อแบรนด์

การบริการลูกค้าที่ดีเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับธุรกิจในยุคปัจจุบันลูกค้าที่พึงพอใจและการให้บริการที่มีมีประสิทธิภาพเป็นก้าวที่สำคัญในการสร้างความเชื่อมั่นและความภักดีต่อธุรกิจในบทความนี้เราจะแสดงให้เห็นถึงวิธีที่ Salesforce ช่วยเพิ่มความภักดีของลูกค้าได้อย่างไร โดยการใช้เทคโนโลยีและเครื่องมือที่ทันสมัยเพื่อสร้างประสบการณ์การบริการที่ดีและปรับปรุงการสื่อสารกับลูกค้าให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

Salesforce ช่วยเพิ่มความภักของลูกค้าได้อย่างไร

1. การทำความรู้จักลูกค้าอย่างละเอียด การทำความรู้จักลูกค้าอย่างละเอียดเป็นพื้นฐานที่สำคัญในการสร้างความเข้าใจและการตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้า ด้วย Salesforce และระบบ Customer Relationship Management (CRM) ที่เชื่อมโยงข้อมูลลูกค้าทั้งหมดในที่เดียว ธุรกิจของคุณสามารถรวบรวมข้อมูลที่สำคัญเกี่ยวกับลูกค้า ตั้งแต่ข้อมูลพื้นฐานเช่นชื่อและที่อยู่ ไปจนถึงประวัติการซื้อสินค้าและพฤติกรรมการใช้บริการ ข้อมูลเหล่านี้ช่วยให้คุณมีวิจัยและการวางแผนที่มั่นใจขึ้นเมื่อต้องการนำเสนอโอกาสทางธุรกิจและบริการที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าแต่ละรายอย่างแม่นยำ

2. การสร้างประสบการณ์ลูกค้าที่น่าตื่นตาตื่นใจ Salesforce มีเครื่องมือและโซลูชันที่ช่วยให้ธุรกิจสร้างประสบการณ์ลูกค้าที่น่าตื่นตาตื่นใจ ตั้งแต่การใช้แอปพลิเคชันและพอร์ทัลที่กำหนดเองได้ การตั้งค่าการแจ้งเตือนและการแจ้งเตือนในเวลาที่เหมาะสม ไปจนถึงการใช้แมชชีนเรียนรู้และปัญญาประดิษฐ์ในการสร้างการสื่อสารแบบส่วนตัวและก้าวหน้า ทั้งหมดนี้ช่วยเพิ่มประสบการณ์ลูกค้าที่ดีขึ้น ลูกค้าจะรู้สึกอุ่นใจและรู้สึกว่าธุรกิจของคุณใส่ใจและมีความสนใจในความต้องการและปัญหาของพวกเขา

3. การตอบสนองต่อลูกค้าอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ การตอบสนองต่อลูกค้าอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างความพึงพอใจในการบริการ ด้วย Salesforce Service Cloud และเครื่องมือต่างๆ ที่ให้คุณสามารถจัดการและติดตามการสอบถามและปัญหาของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ การใช้ความสามารถของระบบอัตโนมัติในการจัดกำหนดความสำคัญและการระบุปัญหาพิเศษช่วยลดเวลาในการตอบกลับลูกค้าและเพิ่มประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหา

4. การสร้างความภักดีผ่านการติดตามลูกค้า Salesforce ช่วยให้ธุรกิจของคุณสามารถติดตามและรับข้อมูลเกี่ยวกับความพึงพอใจของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการใช้เครื่องมือในการสร้างแบบสำรวจและการติดตามความคิดเห็น นอกจากนี้ยังสามารถวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าเพื่อสร้างรายงานและแนวโน้มที่สำคัญได้อีกด้วย เครื่องมือเหล่านี้ช่วยให้คุณสามารถปรับปรุงและปรับให้เหมาะสมกับความต้องการของลูกค้า เพื่อสร้างความภักดีและความพึงพอใจในระยะยาว

5. การเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการก่อนที่พวกเขาจะต้องการ Salesforce มีเครื่องมือและการวิเคราะห์ข้อมูลที่ช่วยคุณในการทำความเข้าใจความต้องการของลูกค้า ซึ่งช่วยให้คุณสามารถพูดถึงและเสนอแนะสิ่งที่ลูกค้าต้องการก่อนที่พวกเขาจะต้องการ ความสามารถในการตัดสินใจและการปรับแผนที่ทันสมัยช่วยเพิ่มความเข้าใจในลูกค้าและสร้างความภักดีที่เหมาะสมต่อการตอบสนองต่อลูกค้า

สรุป

Salesforce เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพสำหรับการบริการลูกค้าและการสนับสนุน การใช้ Salesforce ช่วยเพิ่มความภักดีของลูกค้าโดยการทำความรู้จักลูกค้าอย่างละเอียดการสร้างประสบการณ์ลูกค้าที่น่าตื่นตาตื่นใจ การตอบสนองต่อลูกค้าอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพและการเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการก่อนที่ลูกค้าจะต้องการด้วยการใช้ Salesforce คุณสามารถปรับปรุงประสบการณ์ลูกค้าและสร้างความภักดีที่ยอดเยี่ยมให้กับธุรกิจของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Get on the path to faster sales! 
Watch a guided tour or try free trial now!

มาร่วมทดลอง Salesforce CRM #1 กันเถอะ

ทดลองฟรี
1 2 3 4 6 7

ร่วมทดลอง CRM #1 ของโลกฟรี 30 วัน

Get a Quote

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรังปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ

Save